August 24, 2017

(ONE) Nightstand !!! ขอโต๊ะข้างเตียงสักตัว คืนเดียวคงไม่พอ


อย่าเพิ่งคิดลึก "โต๊ะข้างเตียง" ครับผม ทำใช้เองสักตัว เอาง่ายๆ แค่วางของได้ ลิ้นชักไม่ต้องมี อยากได้สไตล์เรียบๆ บวกดิบนิดนึง ผมมีไม้จากเฟอร์นิเจอร์เก่าพอใช้ทำพื้นโต๊ะได้ ส่วนขาโต๊ะ จะซื้อไม้สนขายเป็นมัดๆจากคลองเตย เป็นไม้สนที่เขารื้อมาจากลังใส่สินค้า ไม้เนื้อละเอียดนิ่ม ทำงานง่าย





ไม้ชั้นวางของจากตู้ครัวเก่า รู้สึกว่าน่าจะเป็นไม้ยาง 
เลือกแผ่นงามๆมาสักแผ่น ใช้ทำพื้นโต๊ะ 

ไม้สนคลองเตย ซื้อมา 3 มัด หน้ากว้าง 1 มัด หน้าแคบ 2 มัด
ไม้หน้าแคบนี่แหละครับจะใช้ทำขาโต๊ะ ส่วนไม้หน้ากว้างจะเก็บไว้ใช้งานอื่น


โต๊ะข้างเตียง เห็นภาษาอังกฤษ เขาเขียนว่า Nightstand, Night Table, Bedside Table แต่ละคำถ้าแปลตรงตัวเลยจะดูทะแม่งๆอยู่นะ ไอ้เราก็ไม่ใช่เจ้าของภาษา ว่าไงก็ว่าตามกัน งานนี้ไม่ซับซ้อนครับ ทำขาโต๊ะเสร็จแล้วเอาพื้นโต๊ะวาง ยิงสกรู จบ


                               
                                       รูตะปูเพียบ 
ขอโป๊วอุดรูก่อนละกันครับ 
จริงๆเขามีแต่ทำเสร็จทั้งชิ้นงานก่อนค่อยโป๊ว ขัด ทำสี 
ไอ้เราก็ขอแหวกแนวนิดนึง 555

ผมใช้ "Wood Filler" อุดรูตะปู เป็นเนื้อครีมสำเร็จรูปมาเลย ไม่แข็งไม่เละจนเกินไป ง่ายมากอุดๆปาดๆ รอให้แห้ง แล้วขัดด้วยกระดาษทราย จบ (เหมาะกับเราซะเหลือเกิน) เมื่อก่อนจะวุ่นหน่อย ต้องใช้ดินสอพองผสมสีฝุ่นโป๊วเอา ปัจจุบันยังมีใช้วิธีนี้กันอยู่ เรื่องงานโป๊วงานทำสีนี่ของปราบเซียนเลยนะครับ (ซึ่งไม่เหมาะกับเราเลย 555) 




ตัดไม้ทำขาโต๊ะ ขาโต๊ะ 1 ข้าง ประกอบด้วยไม้ 4 ชิ้น ตัดปลาย 45 ํ (คิดว่าจะเท่ห์) ทีแรกจะใช้ "เลื่อยลอ" หรือ "เลื่อยปังตอ" (Back Saw) เพราะอยากตัดให้ได้ฉากทุกด้าน เวลาต่อกันตามแบบจะได้สนิทๆหน่อยเลื่อยแบบนี้บนสันใบเลื่อยจะมีเหล็กประกับเพิ่มความแข็ง ใบเลื่อยจะได้ไม่บิด และได้ดิ่งตลอดเวลาเลื่อย อนิจจา!?! เก็บไว้นานไม่เคยดูแล ฟันมันทื่อหมดแล้วครับ ถ้างั้นใช้ "เลื่อยลันดา" (Hand Saw) แทนก็พอได้ (ทำไมไม่เรียก Hand Back Saw ก็ใช้มือจับเหมือนกันไม่ใช่รึ??? 555)

"เลื่อยปังตอ"
ฟันทื่อมากแทบจะไม่กินไม้เลย ทั้งๆที่ไม้ก็เนื้ออ่อนพอสมควรอยู่




ประกอบขาโต๊ะทั้ง 4 ชิ้นเข้าด้วยกัน ผมจะใช้ "แคลมป์เข้ามุม" (Corner Clamp) ช่วยจับไว้ก่อน แล้วค่อยขันสกรูด้วยไขควงมือธรรมดานี่แหละ ไม่ต้องใช้ไขควงไฟฟ้าที่กำลังสูงๆ เพราะไม้ค่อนข้างนิ่ม



ได้ขา 2 ข้างครบแล้ว เดี๋ยวเราจะยึดขาแต่ละข้างเข้าด้วยกันด้วยไม้คานกลาง 2 แท่งตามแบบ ผมจะยึดด้วยสกรูยาว 1 1/2" (หนึ่งนิ้วครึ่ง) และจะใช้ดอกสว่าน 2 ดอก ดอกเล็กใช้เจาะรูนำ เพื่อผ่อนแรงเวลาไขด้วยไขควง ดอกต้องขนาดเล็กกว่าขนาดสกรูพอสมควรนะครับ เดี๋ยวจะเกิดอาการที่เราๆเรียกกันว่า "เกลียวหวาน" (ในชีวิตไม่เคยทำเลยครับ มีแต่ปีนเกลียว 555) ส่วนดอกใหญ่จะใช้คว้านให้เป็นรูใหญ่กว่าขนาดของหัวสกรู เจาะไม่ลึกนะครับนิดเดียว แค่พอให้หัวสกรูจมลงไป เพื่อที่จะได้ใช้ Wood Filler อุดโป๊วรูให้เรียบร้อย

ในงานอื่นจะไม่ใช้ 2 ดอกแบบนี้แล้วนะครับ เพราะจะมีดอกแบบที่เจารูเล็กๆนำได้ พร้อมคว้านรูใหญ่ได้ในคราวเดียวจบ เรียกดอกสว่านแบบนี้ว่า "ดอกเจาะผายหัว" 



 "ไอ้ก้านยาว"
 เป็นชื่อที่ผมใช้เรียกไขควงคู่บารมีผมเลย 
 ตัวนี้ผมรักมาก ความยาวได้ ด้ามจับกระชับมือ หัวเป็นแม่เหล็ก
     
ต่อไปก็เอาไม้พื้นโต๊ะมาขัดด้วยกระดาษทราย แล้วทาด้วย "แชล็ค" (Shellac) อันนี้ดีมากเพราะเป็นสูตรน้ำ อยากให้จางก็เอาน้ำเปล่าผสม พวกแปรงที่ใช้ทาก็ล้างด้วยน้ำเปล่าได้เช่นกัน (ไม่ต้องทนกลิ่นของทินเนอร์อีกต่อไป สุดยอด!?!) มีหลายสีให้เลือก ที่เห็นในรูปเป็นสีประดู่ เข้มปี๋โดนใจ




ลองเอาไม้พื้นโต๊ะมาวางบนขา อ้าว!?! ได้สีแบบ 2 โทน 
ก็สวยไปอีกแบบ แต่ยังไงก็ขอยึดมั่นในอุดมการสีประดู่เข้มปี๋ต่อไปดีกว่า 


ยึดพื้นโต๊ะกับขาด้วยสกรู โป๊วรูสกรู ขัดให้เรียบร้อย ทาสีโลด เสร็จแล้ว

มาถึงทีเด็ด!?! อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าอยากให้ดูดิบๆ เก่าๆ แนว "Old Taste Style" เจ้าเหล็กฉากนี่แหละครับจะเป็นตัวช่วย ตอนผมทาแชล็คจะทาทับเจ้าเหล็กนี้ไปเลย พอเริ่มแห้งแล้วค่อยเอากระดาษทรายเบอร์ละเอียดมากๆ ขัดออก แล้วใช้ Cotton Bud จุ่มน้ำยาหยุดสนิม ทาเข้าไป ซำ้ไปมาสัก 2 เที่ยว จะได้ Effect สีเทาเหมือนเหล็กเก่าๆ กันเลยทีเดียว




สีต่างกันเห็นๆ
เสร็จแล้วเอาไปตั้งข้างเตียงโลด ง่วงนอนขึ้นมาทันใด ครอกฟี้ ราตรีสวัสดิ์ ครับเพื่อนๆ 






     ขอขอบคุณทุกท่านทีเข้ามาชมนะครับ


เรื่องงานไม้ไว้ใจผม
                                                   TMWoodMadness

No comments:

Post a Comment